วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ขยันนักรักเสียเลย

🌾 ขยันนัก💓รักเสียเลย🌾

    ฝนตกพรำๆอากาศเย็นสบายดีเหลือเกิน ต้นไม้ชูยอดชูใบ รับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างชุ่มฉ่ำ เสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาบ้านและใบไม้ดังเป๊าะแป๊ะ เสียงชวนให้เพลิดเพลินดีจัง ทำให้นอนหลับสบาย ผืนดินที่แห้งแล้งตอนนี้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง หลังจากแห้งแล้งมาหลายเดือน เมื่อย่างเข้าฤดูฝนๆก็จะตกลงมาทุกครั้ง ไม่เคยว่างเว้นสักปีเดียว บรรยากาศบอกเลยว่า สดชื่นเย็นสบายทั้งกายและใจอย่างที่สุดจะประมาณ



    เข้าฤดูฝนแล้วชาวนาที่รอน้ำฝน ก็ถือโอกาสอันดีนี้ เริ่มเตรียมตัวที่จะทำนา โดยใช้รถไถแปรเพื่อเตรียมดินเอาไว้ สำหรับการเพาะปลูก ที่นาหลายพันหลายหมื่นไร่ ในอำเภอที่ทำเกษตรกรรม เตรียมไถหว่านกันแล้ว  ชาวนาทุกคนจะขมักเขม้นที่จะปลูกข้าว วิธีการปลูกข้าว จะแตกต่างกันออกไป บางครอบครัวก็เตรียมตกกล้า เพื่อที่จะเอาไปดำในนา บางครอบครัวใช้วิธีหว่านแห้ง หว่านเปียก แล้วแต่สภาพที่ดินบนท้องนา ว่าเป็นที่ลุ่มหรือที่ดอน 



    ซึ่งวิธีการทำนาของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ต้องปรับสภาพไปตามความเป็นจริง ทุกคนต้องต่อสู้ดิ้นรน  เพื่อจะทำให้เกิดผลผลิตขึ้นมา จะได้นำเอาผลผลิตไปขายให้ได้เงินมาจับจ่ายใช้สอย ในชีวิตประจำวัน ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอม และค่าอะไรต่อมิอะไรมากมายหลายอย่าง ความขยันขันแข็งของเกษตรกรนั้น ต้องขอยกย่องไว้ในที่นี้และขอปรบมือให้ด้วยความจริงใจ



    ผลผลิตที่ได้มานั้น ก็ยังถือว่าพอที่จะพยุงการดำรงชีวิตไปได้ โดยที่ไม่เดือดร้อนกันสักเท่าไร เพราะการทำนานั้นต้องใช้ทุนพอสมควร ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าจ้างปักดำ ค่ารถไถนา ค่าเก็บเกี่ยว หักต้นทุนแล้วเหลือไม่กี่บาท หลังจากการทำนาเสร็จสิ้น ก็จะเก็บข้าวเปลือกเอาไว้ทำพันธ์ุ  อีกส่วนหนึ่งก็จะเอาไป สีเป็นข้าวสาร เพื่อใช้ในการบริโภคในครอบครัว ซึ่งสิ่งนี้ที่ทำให้ชาวนา ไม่เดือดร้อนในเรื่องของอาหารการกิน กุ้ง หอย ปู ปลาก็หาได้ในแหล่งธรรมชาติ เช่น ห้วย หนอง คลอง บึง ที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร


   ชาวนาถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ที่ผลิตอาหารมาเพื่อให้ผู้คนภายในประเทศ ได้มีข้าวกินกัน นับได้ว่าเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวง จึงขอยกย่องกระดูกสันหลังของชาติไว้ ณ.โอกาสนี้ และขอให้พี่น้องชาวไทย จงมองเห็นถึงความสำคัญ ความลำบาก ความเหนื่อยยากอย่างแสนสาหัสของชาวนาว่า เขาคือผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง


    บทกลอนที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นบทกลอนยกย่องชีวิตชาวนาที่เอาหลังสู้ฟ้าเอาหน้าสู้ดิน อดทนทำกินเพื่อผลิตอาหารขึ้นมา เพื่อให้เราได้บริโภคกันอย่างมากมาย ขอเชิญทุกๆท่านมาเข้าสู่บทกลอนเพื่อชีวิตของชาวนา ที่น่ายกย่องกันได้เลยครับ

🌱ขยันนักรักเสียเลย🌿
    ข้าวหนึ่งเม็ดได้มามีค่ามาก
แสนลำบากเพียงใดใครจะเห็น
ต้องทุกข์ยากทนไปใหัลำเค็ญ
กว่าจะเป็นข้าวจ้าวที่เรากิน

    ทรหดอดทนไม่บ่นต่อ
เพียงแค่ขอทำนาพาถวิล
แม้จะหนักเพียงใดเหงื่อไหลริน
มีข้าวกินก็พอไม่ท้อใจ

    หัวใจสู้เกินร้อยไม่ถอยห่าง
แม้อยู่กลางแดดร้อนไม่อ่อนไหว
หนักก็เอาเบาสู้ให้รู้ไป
ถ้าเมื่อไหร่แรงหมดอดทันที

    ถึงร่างกายไม่ไหวแต่ใจสู้
จงรับรู้เถิดว่าข้าไม่หนี
สู้ทนทำเรื่อยไปด้วยใจมี
ที่ดินนี้แหล่งทองต้องทำกิน

    แม้เจ็บไข้บางครั้งยังสู้ต่อ
ไม่เคยท้อการงานอาจหาญสิ้น
หลังสู้ฟ้าหน้าหมองก้มมองดิน
ผ้าขาดวิ้นสีเลือนเปื้อนโคลนตรม

    วันเวลาหมดไปในวันหนึ่ง
ไม่คำนึงว่ามันนั้นขื่นขม
ฝ่าแสงแดดฝนนองต้องสายลม
ไม่ขอล้มยืนได้ด้วยใจพลี

    ขอยกย่องชาวนาน่าสงสาร
สุขสำราญเริงร่าพาสุขขี
จงสมหวังดั่งใจให้มากมี
สมบัตินี้มากล้นไม่จนจาง

    ความยิ่งใหญ่สายเลือดไม่เหือดหาย
ใจและกายเดินหน้าอย่ามาขวาง
เกษตรกรควรคู่ผู้นำทาง
ช่วยบันดาลอาหารได้ทานกิน

    แสงเรืองรองส่องฟ้ามาบรรเจิด
สวยเลอเลิศงามตาฟ้าดั่งศิลป์
ทุกชีวิตดิ้นรนทนทำกิน
บนผืนดินสยามนามว่าไทย


































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น