วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ทางรักทางเกวียน

  👫 ทางรักทางเกวียน🌻



    🍅 ด้วยสภาพความแห้งแล้งของถิ่นชนบท สมัยนั้นถนนหนทางก็ยังไม่เจริญ จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ต้องอาศัยเกวียน ถ้าเป็นหน้าน้ำ(ฤดูฝน)ก็จะเดินทางลำบากเพราะว่าชาวบ้านจะเพาะปลูกข้าว แต่ถ้าเป็นหน้าแล้งหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว น้ำก็แห้งไปจากผืนนาการเดินทางจะไปทำธุระ หรือไปอำเภอก็จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น ข้าวเปลือกที่ได้ก็จะขายให้กับโรงสีที่วังหว้า ซึ่งเป็นตำบลแห่งหนึ่งของอำเภอที่อยู่แถวชนบท ปีนี้ผลผลิตที่ได้ดีกว่าปีที่แล้ว ราคาข้าวก็ดีเช่นกัน เมื่อขายข้าวและได้เงินมาเป็นที่เรียบร้อย ก็จัดแจงเข้าไปในตัวอำเภอ ระยะทางก็ไม่ไกลมากสักเท่าไร ประมาณ 20 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาเดินทางทั้งไปทั้งกลับเป็นวันเลยที่เดียว เพื่อไปหาซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค เอามาใช้ในครัวเรือน เช่น กระปิ น้ำปลา หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง นอกจากนั้นก็หาซื้อถ้วย ชาม ช้อน กระทะ ตะหลิว ทัพพี เสื้อผ้าอาภรณ์ ขนมและสินค้าอื่นๆอีกหลายอย่าง


   
🍒 การนัดหมายได้เริ่มขึ้นแล้ว การเดินทางต้องอาศัยเกวียนเป็นพาหนะโดยใช้วัวลากจูง ไปตลาดแต่ละครั้งชาวบ้านที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน หรืออยู่หมู่บ้านใกล้เคียง จะต้องดูกฤษ์ดูยามก่อนออกเดินทาง เพราะว่าสมัยนั้นสภาพในชนบท ยังเป็นป่าในบางพื้นที่หรือพื้นที่ใกล้เคียง สัตวป่าก็ชุกชุม โดยเฉพาะงูเหลือมหรือหมาป่าที่ออกมาหากินเป็ดไก่ของชาวบ้าน ชาวบ้านที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียง ก็จะเดินทางไปด้วยกัน ต้องเตรียมอาวุธให้พร้อม ทั้งมีด ปืนลูกซองต้องครบมือ นอกจากระวังสัตว์ป่าแล้วยังต้องระวังพวกโจรที่ชอบดักปล้นอยู่กลางทางอีก


   🍓 การเดินทางนั้นจะไปกันเป็นขบวนไม่ต่ำกว่ายี่สิบเล่มเกวียน แต่ละเล่มเกวียน ก็จะมีผู้ชายไม่น้อยกว่า2-3คนเพื่อป้องกันระวังภัยและคอยขุดดินตามคันนา เพื่อเปิดทางให้เกวียนผ่านไปได้ ตรงที่มีคันนา ชายฉกรรจ์ก็จะขุดคันนาให้เป็นร่องกว้าง เพื่อให้ล้อเกวียนผ่านไปได้ ตอนขากลับก็จะได้ไม่ลำบาก และเป็นการช่วยเปิดทางให้ชาวบ้านในหมู่อื่นๆได้เดินทางไปอำเภอสะดวกสบายด้วยเช่นกัน ทางค่อนข้างจะขรุขระพอสมควร การเดินทางใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง ออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้าไปถึงอำเภอก็เกือบเก้าโมงเช้า ระหว่างเดินทางนั้นก็หยุดพักครึ่งทาง เพื่อกินข้าวปลาอาหารที่เตรียมเอาไว้และให้วัวพักผ่อน ได้กินน้ำกินหญ้าจะได้มีแรงลากเกวียนต่อไป


   🌵 หลังจากหยุดพักรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางต่อทันทีรวดเดียวจนถึงตลาด ทุกครั้งเมื่อไปถึงตลาดจะมีพื้นที่สำหรับพักเกวียน อยู่ห่างตัวอำเภอออกไปประมาณสองร้อยเมตร มีทุ่งนาที่เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตรงบริเวณนั้นมีต้นไม้ใหญ่หลายต้นให้ร่มเงาอยู่บนเนินดิน พื้นที่เป็นลานกว้างพอสมควร ชาวบ้านก็นำวัวและเกวียนไปพักรออยู่ตรงนั้นและปล่อยให้วัวไปกินหญ้ารอบๆพื้นที่บริเวณนั้น โดยเจ้าของนาจะอนุญาติให้คนที่เดินทางมาจากหมู่บ้านห่างไกลได้พักผ่อนตามอัธยาศรัยด้วยน้ำใจไมตรีที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา


  🍚  ทุกคนที่มาก็นั่งพักเหนื่อยสักครู่ เพื่อให้ร่างกายได้กลับสู่สภาวะปกติ เส้นเอ็นที่ยึดหรือเป็นเหน็บชา หัวสั่นหัวคลอนในขณะนั่งอยู่บนเกวียน ก็จะได้ยืดเส้นยืดสาย ให้มีความกระฉับกระเฉง จะได้เดินไปตลาดระยะทางอีกประมาณ 300 เมตรได้สบาย ส่วนหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคน ก็ได้แบ่งกันเรียบร้อย ใครจะอยู่เฝ้าของหรือใครจะไปตลาด เมื่อทุกคนเดินไปถึงร้านค้า พ่อค้าแม่ค้าก็จะต้อนรับขับสู้อย่างเป็นกันเอง การค้าขายก็เริ่มขึ้น แต่ละคนก็เลือกซื้อสินค้าที่ตัวเองต้องการ ที่มีความจำเป็นเท่านั้น มีการต่อรองราคากันอย่างสนุกสนาน ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าก็ได้ขายสินค้าให้กับชาวบ้านในราคายุติธรรม ไม่เคยเอารัดเอาเปรียบกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ แถมยังมีของชำร่วยอีกเล็กๆน้อยๆ เพื่อเป็นสินน้ำใจได้กลับบ้านไปอีกด้วย

    🍜  เมื่อทุกคนได้สินค้าตามที่ตัวเองต้องการครบแล้ว ก็ไปหาข้าวหาปลากินกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูลูกชิ้นน้ำใสและผัดกระเพราหมูไข่ดาว กินไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน ถามไถ่ด้วยความห่วงใยว่าได้ของครบกันมั้ย เพราะว่ายังพอมีเวลาเหลืออยู่ ก่อนที่จะเดินทางกลับ ทุกคนได้ของครบทุกอย่างไม่มีการตกหล่น โดยเฉพาะของที่ลืมไม่ได้เลยก็คือขนมของไอ้ตัวน้อยที่อยู่เฝ้าบ้านกับ ปู่ ย่า ตา ยาย เด็กๆนั้นไม่ได้เอามาด้วยเนื่องจากกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นระหว่างทาง ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันเด็กน้อยก็จะตกเป็นเหยื่อของโจรและสัตว์ป่าได้


  🌄  เวลาบ่ายโมงขบวนเกวียนก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากที่พักเพื่อกลับบ้าน ขากลับวัวที่ลากเกวียนก็จะเดินช้ากว่าขาไปเพราะว่ามีข้าวของเต็มเกวียนทั้งเล่ม คนส่วนใหญ่ก็จะลงมาเดินตามเกวียนเหลือไว้แต่คนบังคับเกวียนเท่านั้น ถ้าใครเดินจนหมดแรงก็จะไปนั่งบนเกวียน พอมีแรงก็กลับลงมาเดินต่อเหมือนเดิม ในที่สุดก็กลับมาถึงหมู่บ้านและแยกย้ายไปบ้านใครบ้านมัน ทุกคนที่รอต่างดีใจที่เห็นทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะไอ้ตัวเล็กตัวน้อย แต่ละคนจะกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจและก็ถามหาแต่ขนม ทุกอย่างราบรื่นเป็นอย่างดีดั่งที่ตั้งใจไว้ แต่ละครอบครัวก็หุงหาอาหารเตรียมกับข้าวกลับปลาและนั่งลอมวงกินข้าวกันอย่างมีความสุข


🐔  ทางรักทางเกวียน🐜
   จากบ้านนาแดนไกลในถิ่นนี้
มีสิ่งดีมากมายหลายอย่างหนา
มีกุ้งหอยในคูทั้งปูปลา
จับเอามาทุกครั้งยังได้กิน

   ธรรมชาติก็งามอร่ามเลิศ
แสนประเสริฐใจคนไม่ปนหิน
มีจิตใจเมตตาน่ายลยิล
ทั่วทุกถิ่นแดนไกลในบ้านนา

   
ช่วยเหลือกันยามยากจากใจแท้
ไม่ผันแปรหมุนเวียนเพียรไปหา
ทั้งข้าวปลาอาหารใส่จานมา
มีปลาร้าส้มตำยำถั่วพลู

   
จะเกี่ยวข้าวดำนาพากันช่วย
สิ่งอำนวยไม่มีที่เลิศหรู
คนละไม้ช่วยกันมันน่าดู
หอยปลาปูจับกันนั้นมากมาย

   
จะมีงานครั้งใดไม่เคยเกี่ยง
ทั้งงานเลี้ยงทั่วไปไม่หนีหาย
ช่วยกันทำลงมือไม่ถือกาย
ใจสบายสุขขีดีทุกคน

   
สุขอย่างนี้ที่ไหนไม่มีแล้ว
มีแต่แถวบ้านนาน่าฉงน
ไปทางไหนยิ้มสวยด้วยใจตน
ทุกแห่งหนบ้านนาฟ้าเบิกบาน

 
 ทางรักนั้นมากมายตั้งหลายอย่าง
ใช่รักทางหนุ่มสาวคราวลูกหลาน
แต่รักนี้มีไว้ให้ยาวนาน
ไว้ประสานเชื่อมต่อพอเข้าใจ

 
 แต่ทางรักตรงนี้ที่กำหนด
ช่างงามงดผ่องพรรณไม่หวั่นไหว
ใช้เดินทางร่วมกันนั้นมุ่งไป
ซื้อของใช้เสื้อผ้าอย่าละเลย

   
ทางเกวียนนี้สำคัญอย่างมั่นหมาย
ทั้งวัวควายได้ใช้ใคร่เฉลย
เป็นของดียิ่งนักรักลงเอย
ขอเอื้อนเอ่ยคำรบขอจบคำ






























วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

รักอย่าทำลาย

รักอย่าทำลาย



       ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง แต่ที่เห็นเป็นสีแดงๆใช่อื่น มันคือดอกทานตะวันเม็กซิโก ที่ออกดอกอย่างสวยงามที่หน้าบ้าน ในพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า มันไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่มันคือความจริง ที่น้ำมือมนุษย์สร้างขึ้นมา เพื่อให้เกิดสิ่งที่ตนเองปรารถนาทำให้เกิดความสุขทางด้านจิตใจ มีความยินดีและมีแรงบันดาลใจหลายๆอย่างปรากฏขึ้มมา เหมือนเป็นแรงผลักดันให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีจุดหมาย ความจริงสิ่งที่ปรากฏขึ้นมา ในโลกใบนี้ มีอยู่สองสิ่งที่สร้างมันขึ้นมาก็คือธรรมชาติโดยตรง กับน้ำมือของมนุษย์ ธรรมชาติจะสร้างสรรค์ในสิ่งที่ดีและสวยงาม ส่วนมนุษย์จะสร้างสรรค์ในสิ่งที่ชอบและเลียนแบบธรรมชาติเสียเป็นส่วนใหญ่     


     ธรรมชาติคือผู้สร้างสรรค์อย่างแท้จริง ดั่งที่ปรากฏให้เห็นเช่นต้นไม้บนภูเขา น้ำตก  พืชพรรณนานาชนิด ทั้งที่เก็บมากินได้และเป็นประเภทไม้ดอก ไม้ประดับหรือวัชพืช  พืชพันธุ์ธัญญาหารนานาชนิด ที่คนชอบนำเอาออกมาจากป่า เพื่อผลประโยชน์ของตนเองหรือนำมาเพื่อปลูกประดับไว้ตามบ้านเรือน สิ่งสวยงามเหล่านั้นบางชนิดก็สูญพันธุ์ไปก็มี ถ้ามนุษย์ไม่ไปยุ่งกับธรรมชาติจนเกินควร ธรรมชาติก็จะอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยกันเอง โดยไม่ต้องอาศัยน้ำมือมนุษย์ในการขยายพันธ์ุ ใดๆทั้งสิ้น แต่ที่กลัวว่าจะสูญพันธุ์และก็สูญพันธุ์ไปจริงๆก็ด้วยน้ำมือมนุษย์ทั้งสิ้น ที่ชอบไปเบียดเบียนธรรมชาติที่สวยงาม โดยมุ่งแต่หวังผลระยะสั้น ไม่ยอมให้ธรรมชาติพักฟื้นหรือขยายพันธ์ุด้วยตัวของมันเอง ก็ไปตัดไปโค่นจนหมดป่า ดั่งที่ปรากฏให้เห็นเป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ สิ่งที่ตามมาก็คือ ความแห้งแล้งหรือน้ำท่วม ที่ปรากฏอยู่ทั่วทุกหย่อมหญ้าในเวลานี้


      ดอกไม้นานาพันธุ์ที่ขึ้นอยู่ในป่า ภูเขา ลำเนาไพร ถ้าไม่มีใครไปทำร้ายมัน จะกี่พันกี่หมื่นปีก็ไม่มีวันที่จะสูญพันธ์ุ หันกลับมาดูดอกไม้ที่คนนิยมปลูกกันทั่วไป บ้างก็ปลูกเป็นไม้ดอกหรือไม้ประดับ บ้างก็ปลูกไว้เพื่อการพานิชย์ เช่นดอกดาวเรือง ดอกทานตะวัน ดอกมะลิ ดอกรัก ดอกจำปี ดอกกุหลาบและมีมากมาย หลายสิบหลายร้อยชนิด ใครที่ชื่นชอบดอกไม้ชนิดไหน ก็จะสรรหาเอามาปลูกไว้ เพื่อให้ดูสวยงาม หรือปลูกไว้เพื่อเสริมศิริมงคลหรือจะอื่นใดก็ตาม นั่นก็เป็นสิ่งดีทั้งนั้น  จงปลูกดอกไม้หรือพันธ์ุไม้ที่ชื่นชอบ แล้วจะรู้ว่ามันเป็นความสุข ที่ไม่ต้องหาซื้อด้วยเงินทอง มันมีคุณค่าทางจิตใจมากๆ ถ้ายิ่งปลูกฝังให้เด็กๆและเยาวชน หันมาปลูกดอกไม้หรือพันธ์ุไม้ที่ชอบ ก็จะทำให้เป็นคนที่มีจิตใจที่ดีงาม จะเกิดความรักในธรรมชาติ ทำให้มีสมาธิในการเรียนหนังสือ เป็นคนที่มีจิตใจที่อ่อนโยน ไม่ดื้อรั้นและไม่ก้าวร้าว จะเป็นคน อารมณ์สุนทรีย์ มีความน่ารักน่าเอ็นดู


      ดอกไม้และพันธ์ุไม้ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ยากที่จะนำมากล่าวให้จบในระยะเวลาสั้นๆ จึงขอเชิญชวนทุกๆท่านมาปลูกดอกไม้หรือพันธ์ุไม้ชนิดใดก็ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใดก็ตาม ก็สามารถ นำมาปลูกได้หมด ถ้าทุกคนสามารถดัดแปลงแบ่งพื้นที่อยู่อาศัย แม้แต่ห้องที่เป็นคอนโด หรือห้องเช่าตามสถานที่ในเมือง ก็ซื้อมาเป็นกระถางที่สำเร็จรูปแล้วแขวนหรือตั้งไว้ตามระเบียงก็ได้ 

  💕 รักอย่าทำลาย 💕
   ดอกไม้มีมากมายหลายชนิด
ให้ชีวิตสดใสไม่หม่นหมอง
ปลูกเอาไว้หน้าบ้านนานเป็นกอง
ใครได้มองสดชื่นระรื่นใจ

   ดอกไม้พันธุ์งดงามอร่ามแสง
ดอกสีแดงแจ่มแจ๋วแพรวสดใส
มีกิ่งก้านใบเรียวเขียววิไล
ชื่นชมได้ทุกวันนั้นสุขจริง

   ปลูกเอาไว้มากมายหลายชนิด
ได้ใกล้ชิดชมเชยไม่เฉยนิ่ง
ดอกไม้งามยิ่งนักรักแอบอิง
เป็นเหมือนสิ่งมีมนต์ต้องดลใจ

   จะสีไหนก็สวยด้วยเราเห็น
งามสวยเด่นเสียจริงกว่าสิ่งไหน
ดอกสีเหลืองผ่องผุดฉุดหัวใจ
เป็นดอกไม้กลิ่นหอมน่าดอมดม

   สีชมพูสวยหวานปานน้ำผึ้ง
เปรียบประหนึ่งเรืองนามงามสุขสม
มีกลิ่นหอมเย้ายวนชวนภิรมย์
ดอกชวนชมได้มองต้องทุกยาม

   สีส้มนั้นก็มีสีสวยสด
งามหมดจดแจ่มตาน่าเกรงขาม
ยืนต้นอยู่โสภาคู่ฟ้าคราม
สวยเกินห้ามใจตนล้นดวงตา

   จะกล่าวไปก็มากยากจะจบ
ท่านไปพบสิ่งนี้ดีหนักหนา
ดอกไม้มีมากมายหลายราคา
ไปสรรหามาปลูกคงถูกใจ

   ลงมือทำวันนี้คงดีแน่
อย่ามัวแต่ผลัดวันให้หวั่นไหว
รักดอกไม้สิ่งนี้ดีทุกวัย
จิตผ่องใสจริงแท้นั้นแน่นอน

   ช่วยกันปลูกดอกไม้ด้วยใจเถิด
จะล้ำเลิศดูดีศรีสมร
ช่วยคลายทุกข์หมดไปในนคร
สุขแน่นอนใจนี้ดีทุกคน