วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

รักนา รักรถ

🌾 รักนา รักรถ 🚙
     เสียงรถไถดังกระหึ่มอยู่กลางทุ่งนา ท่ามกลางบรรยากาศที่ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆ ที่พร้อมจะตกมาเป็นเม็ดฝน  ถึงฤดูการทำนาเริ่มขึ้นประมาณปลายเดือนมิถุนายน เพราะว่าปีนี้ฝนมาช้ากว่ากำหนด ชาวนาจึงไม่มีน้ำจะทำนา เพราะว่าทางอ่างเก็บน้ำ ก็มีปริมาณน้ำที่ต่ำกว่าเกณฑ์ จึงต้องเก็บน้ำไว้บริโภค เพื่อนำไปทำน้ำประปามิเช่นนั้นแล้ว ประชาชนทั่วทุกหัวระแหงก็จะเดือดร้อนในเรื่องของน้ำกินน้ำใช้ พอต้นเดือนพฤษภาคม ทางอ่างเก็บน้ำปล่อยน้ำลงมาให้เกษตรกรได้ทำนากัน ในพื้นที่หลายหมื่นไร่ อำเภอที่ประขาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก บวกกับน้ำฝนที่ตกลงมาในปริมาณที่ไม่มากสักเท่าไร เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ



     ในแต่ละปีช่วงพักรถ ก่อนที่จะนำรถไถออกมารับจ้างไถนานั้น เจ้าของรถไถ ก็จะรักษาซ่อมบำรุงเป็นอย่างดี ทำความสะอาด เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ขัดเงาทั้งตัวรถและล้อทำยังกับเป็นลูกในไส้ ของตัวเองคนหนึ่ง(เฉพาะเจ้าของรถบางคันนะ)และทำโรงรถไว้โดยเฉพาะ คันหนึ่งราคาก็หลายแสนบาท บางคนก็ดาวน์รถออกมา ผ่อนเป็นงวดๆบางคนที่พอจะมีเงินเก็บ ก็ซื้อสดจุดประสงค์คล้ายๆกันก็คือ ซื้อมาเอาไว้รับจ้างนั่นเอง ค่าจ้างรถไถไร่ละ 700-800 บาท อยู่ที่ความยากง่ายของการไถแปร ถ้านาของใครที่มีหญ้าหรือวัชพืชรกมาก ก็จะคิดราคาเพิ่ม เพราะอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน จะสูงกว่าพื้นที่นาปกติ นอกจากรับจ้างไถนาแล้ว ก็ยังมีรับจ้างงานอื่นๆอีก เช่น ไถทำร่องสวน ไถพรวนดิน ไถปรับพื้นที่เพื่อปลูกบ้าน ลากรถติดหล่ม เป็นต้น


    ชาวนาแต่ละครอบครัวมีที่นาทำกินมากบ้างน้อยบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับมรดกตกทอดที่บรรพบุรุษ ได้ไปแผ้วถางจับจองเป็นเจ้าของ โดยตอนแรกๆก็ได้แต่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นพื้นที่เพาะปลูกพืช ทางการเกษตรเท่านั้น โดยจะปลูกบ้านอยู่บริเวณพื้นที่ทำมาหากินของตัวเอง บ้านแต่ละหลังจะปลูกไม่ห่างกันมากนัก ด้วยในเรื่องของความปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายและสิงห์สาราสัตว์ เผื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น จะได้ช่วยเหลือกันทันท่วงที วิถีชีวิตแบบเดิมๆที่นาส่วนใหญ่ จะอยู่หลังบ้านของตัวเองหลายสิบหลายร้อยไร่ ขึ้นอยู่กับครอบครัวเล็กหรือครอบครัวใหญ่ เพราะอาชีพทำนาเป็นอาชีพเดียว ที่สามารถเลี้ยงชีวิตครอบครัวนั้นได้ ไม่ต้องออกไปรับจ้างที่ไหน อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา มีอะไรก็ช่วยเหลือและแบ่งปันกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกันจึงทำให้สังคมในชนบท มีความรักใคร่กลมเกลียว มีความสามัคคีด้วยดีเสมอมา



     แม้ว่าเสื้อผ้าการแต่งกายจะเปรอะเปื้อนไปด้วยขี้โคลน แต่ทว่าน้ำใจไมตรีไม่เคยที่จะเปรอะเปื้อนไปด้วย การทำนาทุกครอบครัวก็จะเสร็จไล่เรี่ยกันไม่เกินหนึ่งเดือน ทุกบ้านต้องทำนาให้เสร็จสมบูรณ์ นาของครอบครัว ที่ไม่มีทางออกก็ต้องลงมือทำก่อนเพื่อน ทุกอย่างจึงไม่มีปัญหา ด้วยความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันนี่เอง ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่ สำหรับที่นาที่เขาเรียกว่าเป็นที่ตาบอด ที่ดินตาบอด หมายถึง ที่ดินเเปลงหนึ่งที่มีที่ดินเเปลงอื่นล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงสาธารณะได้ หรือที่ดินเเปลงนั้นมีทางออกสู่สาธารณะได้ เเต่ต้องข้ามบึงหรือที่ชัน ซึ่งทำให้เจ้าของที่ดินนั้นเดือดร้อนเกินสมควร แต่เจ้าของที่ดินแต่ละเจ้าก็ไม่เคยที่จะขัดแย้งกัน ด้วยเป็นเพราะว่าเป็นเครือญาติหรืออยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เติบโตและเกื้อกูลกันมาด้วยดีตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน  

  🌾 รักนา รักรถ 🚏
   ฟ้าสดชื่นเจิดจ้าเวลาเช้า
ไปพวกเราดำนาพาสุขสันต์
ไม่เกี่ยงงอนทำได้ในทุกวัน
เห็นพระจันทร์ขึ้นมาจึงลาจร

   หนึ่งวันนั้นผ่านไปไม่รันทด
สู้จนหมดแรงทำย้ำคำสอน
แม้ชีวิตเป็นยังดั่งละคร
ก็ไม่ถอนจากลานาที่ทำ

   กว่าจะได้ข้าวมานั้นยาไส้
อดทนไปไม่ท้อจึงขอย้ำ
ทำนานี้ดีนักรักจึงทำ
แม้จะย่ำดินโคลนโดนทั้งปลิง

   เกิดมาเป็นชาวนาน่าสงสาร
ต้องทำงานทุกวันขยันยิ่ง
ทั้งแดดฝนลมร่อนร้อนเสียจริง
ทำทุกสิ่งไม่เว้นเย็นค่ำคืน

   ตื่นแต่เช้าเดินย่ำไปดำหว่าน
ฟ้าเบิกบานยิ้มร่าพาสดชื่น
เดินพูดจาหยอกล้อต่อแถวยืน
ใช่ใครอื่นทำงานคนบ้านเรา

  ไม่มีเครียดหลอกนะจะบอกให้
ร้องเพลงไปสุขขีไม่มีเหงา
กลางทุ่งนาเสียงเพลงบรรเลงเบา
ช่วยบรรเทาความร้อนให้ผ่อนคลาย

   นี่มันคือความจริงไม่กลิ้งกลอก
อยู่บ้านนอกสุขใจไม่เหือดหาย
มีนกร้องไก่ขันนั่นวัวควาย
มีเป้าหมายแท้จริงสิ่งทั้งปวง

   จะสุขใดไหนเล่าเท่าสุขรัก
ให้ประจักษ์จากใจไม่แหนหวง
รถไถนาพาเราไม่เศร้าทรวง
ให้ลุล่วงด้วยดีนี้ทุกตอน

   บ้านนาเราเช้าเย็นเป็นสวรรค์
สุขนิรันดร์อิ่มใจไม่ถ่ายถอน
ความสดชื่นมีได้ไม่ขาดตอน
เหมือนละครโรงใหญ่ในบ้านนา






















































   





   




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น