วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ศิษย์รักศิษย์รก

👳ศิษย์รักศิษย์รก👿


 มีชายคนหนึ่งเดินโซซัดโซเซอยู่ริมถนน ผู้คนที่สัญจรต้องขับรถอย่างระมัดระวัง เพราะรู้ดีว่าถ้าออกจากบ้านเมื่อไร ก็ต้องเจอชายคนนี้อยู่เป็นประจำ แต่ก่อนนั้นเมื่อยังเยาว์วัยชายคนนี้ ก็เป็นเด็กน่ารักเหมือนกับเด็กทั่วไป แต่ทว่ามีข้อเสียคือเป็นคนเห็นแก่ตัว มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบที่จะสุงสิงกับใคร ที่เสียไปมากกว่านั้นก็คือชอบพูดโกหก ชอบพูดแก้ตัว แม้จะจับได้ว่าทำผิดก็ยังไม่ยอมรับ เป็นคนที่เห็นแก่ได้และเห็นแก่กิน ไม่มีน้ำใจที่จะแบ่งปันให้กับเด็กในวัยเดียวกัน ถ้าจะไปพูดคุยกับใคร ก็มีแต่ความเสแสร้งแกล้งทำตลบตะแลง ไม่มีความจริงใจต่อเพื่อนรุ่นเดียวกันหรือกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีความเอ็นดู


    อาจจะไม่เชื่อว่าคนแบบนี้มีอยู่จริง แต่มันก็คือความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว "ก็ในเมื่อยังเป็นเด็กอยู่ จะมีพฤติกรรมแบบนั้นได้รึ" ทุกคนอาจจะตั้งคำถามไว้ในใจ *วันหนึ่งเด็กคนนี้ก็ได้มีโอกาส ได้ไปเข้าเรียนในโรงเรียนประจำตำบล ด้วยบุคลิกความน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้คุณครูในโรงเรียนเกิดความเอ็นดู กับเด็กคนนี้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะครูสุภาพสตรีท่านหนึ่ง อายุใกล้จะเกษียนแล้วจะเอ็นดูเด็กคนนี้มาก ท่านจะดูแลเอาใจใส่ในทุกๆเรื่อง ด้วยท่านอาจจะไม่เคยมีลูกมาก่อน ทำให้มีความยินดีที่จะอุปการะเด็กคนนี้ (ที่ท่านไม่มีลูกเพราะว่าท่านเป็นหมันมีลูกไม่ได้)


    ท่านจึงไปขอผู้ปกครองคือพ่อและแม่ของเด็ก เพื่อนำเอามาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ผู้ปกครองก็อนุญาติตามความประสงค์ของคุณครู ด้วยทางบ้านของเด็ก ก็มีฐานะที่ไม่ค่อยจะสู้ดี จึงคิดว่าคงจะไม่มีปัญญาที่จะส่งเสียให้ลูกได้เรียนในระดับสูงๆ อีกสามปีคุณครูก็จะเกษียนแล้ว เด็กคนนี้หัวพอไปได้ เรียนอยู่ในระดับปานกลาง นิสัยก็ค่อนข้างจะดื้อ ในที่สุดเด็กก็เรียนจนจบ ป.6  แล้วก็ไม่อยากเรียนต่อ คุณครูและผู้ปกครองต้องการให้เรียนก็ไม่เรียน ชอบแอบหนีไปเที่ยว ไม่มีใครเอาเขาอยู่ แม้แต่คุณครูเขาก็ไม่เชื่อฟัง ทุกค่ำคืนก็จะออกไปมั่วสุมกับเพื่อนๆ แถวสะพาน แถวท้ายตลาด หรือไม่ก็ไปขับมอเตอร์ไซค์ เป็นเด็กแว้นกับเพื่อนๆ


    จนอายุได้18 ปีก็หันไปทำในสิ่งที่ผิดกฏหมาย ซึ่งก่อนหน้านั้นก็กระทำผิดอยู่แล้ว แต่ยังจับไม่ได้ ความคึกคะนองบวกกับความห้าวทำให้ขาดความย้ำคิด "เด็กน้อยคนนั้น" ซึ่งก็คือเด็กหนุ่มในปัจจุบันนี้ ต้องไปติดยาและของมึนเมา พอสบโอกาสก็นำยานั้น ไปขายให้กับเพื่อนๆจนมีรายได้พอสมควร แต่ก็ทำอยู่ได้ไม่นาน ในที่สุดก็ถูกจับดำเนินคดี ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี


    ส่วนคุณครูนั้น เมื่อเด็กเรียนจบป.6ไปแล้ว ก็ไม่เคยที่จะมาตอบแทนบุญคุณครู ที่ส่งเสียให้เรียนสักครั้งเดียว ตอนนี้เขาเป็นคนขี้เหล้าเมายาเดินอยู่ริมถนนในหมุู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง ด้วยฤทธิ์ของยาบ้าและสุราทำให้เขาเสียผู้เสียคน ประสาทและสมองก็เสียไปด้วย ส่วนพ่อแม่ของเขานั้น ก็เสียชีวิตไปเมื่อตอนที่เขาถูกจองจำ มันเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของชีวิตผู้ชายคนนี้ ที่มีโอกาสแล้วแต่ไม่รีบไขว่คว้าโอกาสนั้นเอาไว้ วาสนามีแต่มีกรรมมาบังเอาไว้
   ดังพุทธภาษิตกล่าวไว้  กัมมุนา วัตตติ โลโก” สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม

   บทกลอนที่นำมาเสนอนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในโลกมนุษย์ใบนี้ ที่บางคนอาจจะเคยได้ไปสัมผัสด้วยตนเอง หรืออาจจะเคยเห็นสิ่งเหล่านี้มาด้วยตา ไม่ต้องแปลกใจว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เชิญมาอ่านบทกลอนกันดีกว่าครับ ยิ่งนานวันปัญหาเหล่านี้ ก็นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็หวังว่าจะมีหน่วยงานของภาครัฐลงมาแก้ไขอย่างจริงจังอาจจะทำให้ปัญหาเบาบางลงได้☺

    👮ศิษย์รักศิษย์รก👤
   กว่าจะเกิดมาได้ก็ให้ยาก
ความลำบากต้องสู้รู้จริงแท้
พ่อแม่เราเฝ้าอยู่หมั่นดูแล
แม้แต่แผลมดกัดให้ขัดใจ

   ถนอมรักเลี้ยงดูอยู่ไม่ขาด
ความสามารถสิ่งนี้ที่ยิ่งใหญ่
เฝ้าถนอมฟูมฟักรักด้วยใจ
แม้แต่ไรตัวเดียวอย่าเที่ยวมา

  ลูกต้องการอะไรได้จริงแท้
เลี้ยงดูแลอย่างดีสิ่งมีค่า
ไม่เคยขาดเลี้ยงดูอยู่ทุกครา
แม่เวียนหามาให้ได้ทันที

   วันเวลาเปลี่ยนไปได้เรียนรู้
เจอคุณครูที่รักมีศักดิ์ศรี
รับเป็นบุตรบุญธรรมนำสิ่งดี
ให้ลูกนี้ด้วยใจได้เล่าเรียน

   การศึกษาช่วยคนทุกหนแห่ง
ช่วยเป็นแรงผลักดันหมั่นอ่านเขียน
จะสำเร็จลงได้ด้วยใจเพียร
ตั้งใจเรียนไว้เถิดเกิดผลดี

   นำวิชาความรู้อยู่คู่ตัว
ไม่เกือกกลั้วอบายหมายบัดสี
จงออกห่างให้ไกลในทันที
ทำหน้าที่ของตนไม่จนใจ

   กตัญญูรู้จักรักหน้าที่
มอบความดีแทนคุณบุญสดใส
เทวดานั้นช่วยอำนวยชัย
ส่งผลให้ประเทืองรุ่งเรืองงาม

   ความสำเร็จตรงนี้จะมีได้
จงจำไว้เถิดว่าอย่าเหยียดหยาม
กตัญญูรู้คุณต้นทุนงาม
ดั่งฟ้าครามสดใสในนที

  เกิดเป็นคนมาแล้วจงแน่วแน่
นั้นดีแท้แน่นักมีศักดิ์ศรี
คุณธรรมความรู้คู่ความดี
ใครที่มีสิ่งนี้ดีแน่นอน


















   










   

  








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น